กรุงเบอร์ลิน บทบันทึกแห่งการเดินทาง
สู่สายใยประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงไทยกับโลกตะวันตก

กรุงเบอร์ลินในสายพระเนตรของรัชกาลที่ 5 ส่วนหนึ่งในพระราชนิพนธ์ “ไกลบ้าน” พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้มีพระราชหัตถเลขาเปรียบเทียบกรุงปารีส กรุงลอนดอน และกรุงเบอร์ลินว่า “บอกโดยย่อได้ว่า ถ้าจะเปรียบด้วยวิธีตั้งโต๊ะ เมืองปารีส เหมือนโต๊ะหลวง เมืองลอนดอนเหมือนโต๊ะกรมหลวงนเรศร์ เมืองเบอลินเหมือนโต๊ะท่านเล็ก” ลักษณะของการ "ตั้งโต๊ะ" นั้น พระองค์ทรงหมายถึงโต๊ะเครื่องบูชาพระแบบจีนผสมไทยซึ่งได้รับความนิยมในยุคนั้น การเปรียบเทียบนี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นระเบียบและลำดับชั้นของเมืองทั้งสามในมิติทางสังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ

ตามรอยประวัติศาสตร์ สู่สัญลักษณ์ล้ำค่า หลอมรวมยุคสมัย
เชื่อมอดีตและปัจจุบัน

หากเราตามรอยพระบาทในกรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของจักรวรรดิเยอรมันในอดีตและศูนย์กลางแห่งประวัติศาสตร์ยุโรป คุณจะพบว่าความยิ่งใหญ่ในอดีตยังคงสะท้อนอยู่ในสถานที่สำคัญที่ รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมชม สถานที่เหล่านี้มิใช่เพียงอนุสรณ์แห่งอดีต แต่ยังเปี่ยมด้วยเสน่ห์และแรงบันดาลใจที่คงอยู่จนถึงปัจจุบัน

ห้างสรรพสินค้า เคาฟเฮาส เดลเวสเทนส์ (คาเดเว) อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนเยอรมันและคนไทย

หนึ่งไฮไลท์แลนด์มาร์ค ที่เชื่อมโยงกรุงเบอร์ลินกับประเทศไทย คือ ห้างสรรพสินค้า เคาฟเฮาส เดส เวสเทนส์ (Kaufhaus des Westens) หรือ คาเดเว (KaDeWe) ซึ่งแปลว่า "ห้างสรรพสินค้าแห่งตะวันตก" ก่อตั้งโดย นายอดอล์ฟ ยันดอร์ฟ (Adolf Jandorf) ในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2450 ในเดือน สิงหาคม พ.ศ. 2450 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จเยือนห้างนี้ถึงสองวัน การเสด็จเยือนของพระองค์กลายเป็นข่าวพาดหัวที่ทำให้ห้างสรรพสินค้าคาเดเว (KaDeWe) ได้รับความนิยมอย่างสูง และยกระดับย่านเทาเอ็นซีนชตราเซอ (Tauentzienstraße) ให้เป็นย่านช้อปปิ้งสำคัญใจกลางกรุงเบอร์ลินในเวลาต่อมา ได้ทรงมีพระราชดำรัสบรรยายถึงห้างแห่งนี้ไว้ว่า

แล้วไปที่ห้างเคาฟเฮาส เดลเวสเตนส์ ห้างนี้เปนห้างใหญ่โตมาก ขายของสารพัดทุกอย่างไม่เลือกว่าอะไร ตั้งเปนหมวดๆ ไป ร้านนั้นอยู่มุมที่ทางสามแพร่ง ตลอดตั้งแต่พื้นดินถึงพื้นชั้นบนหลายสิบห้อง มีลิฟต์ถึง ๒๘ ลิฟต์ มีสิ่งของที่ขายอยู่ในร้านเปนราคาถึงห้าล้านม้าก คนที่ขายของทั้งผู้หญิงผู้ชายเด็กผู้ใหญ่ถึงสองพันคน จะซื้อสิ่งใดเปนแต่ไปชี้ว่าให้เอาสิ่งนั้นสิ่งนั้นไปเลือก แล้วเขาก็เอาไปที่ห้องสำหรับเลือก ถ้าจะไปมัวซื้ออยู่แต่แห่งเดียวจะไม่ได้เห็นอะไร ต้องใช้เดินประเมินเสียก่อน แต่ชั่วค่าเดินประเมินไม่สู้ทั่วถึงทีเดียวกินเวลาถึงสองชั่วโมง…

ห้างสรรพสินค้าคาเดเว (KaDeWe) ยังคงความยิ่งใหญ่ เป็นหนึ่งในห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุโรปและเป็นจุดหมายที่นักช้อปทั่วโลกไม่ควรพลาด

ความโดดเด่น
และความวิจิตรของ ห้างคาเดเว

วินโดว์ดิสเพลย์ด้านหน้าที่จะสลับเปลี่ยนไปตามคอลเลคชั่นของแบรนด์ดังและเทศกาลสำคัญต่างๆ สร้างความตื่นตาตื่นใจตลอดเวลา เช่น การตกแต่งวินโดว์ดิสเพย์ในธีม ‘Let Your Heart Be Light’ โทนสีน้ำเงินเข้ม สีเขียว และสีทอง ระยิบระยับวับวาวพร้อมกับดวงดาวสีทองสุกสว่างทั่วทั้งพื้นห้าง สะกดทุกสายตาของผู้ที่ได้มาเยือนในช่วงเทศกาลเฟสทีฟ, ห้อง Personal Shopping บนชั้น 5 ของห้าง ที่สามารถผ่อนคลายกับอาหารและเครื่องดื่ม บริการทรีตเมนต์ต่างๆ จากแบรนด์สกินแคร์ระดับโลก ในระหว่างรอผู้ช่วยช้อปส่วนตัวนำสินค้าที่ลูกค้าต้องการนำมาให้เลือกซื้อภายในห้อง นอกจากนี้บริเวณชั้น 6 เป็น ฟู้ดฮอลล์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เสิร์ฟอาหารแบบ Open Kitchen

สามารถชมขั้นตอนการปรุงอาหารอย่างใกล้ชิดให้ความรู้สึกคล้ายกำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ที่บ้าน รวมถึง เคาน์เตอร์เบเกอรี ที่อบสดใหม่, โซน “ช็อกโกแลตเวิลด์” เคาน์เตอร์หินแกรนิตอิตาเลียนตกแต่งลวดลายคล้ายขนมนูกัต นำเสนอขนมคาว-หวานแบรนด์ดังระดับโลก นอกจากนี้ยังมี โซนแชมเปญ ไวน์ เครื่องดื่ม และชีส รวมไปถึงอาหารคอนเซปต์ใหม่ที่นำเสนอผ่านร้านอาหารคลีนชื่อดัง Daluma จาก Berlin-Mitte และร้านอาหารสไตล์ยุโรป Kartoffelacker

ในปี 2566 คว้า 2 รางวัลทรงเกียรติจาก
Intercontinental Group of Department Stores (IGDS)

รางวัลห้างสรรพสินค้าที่มีความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมระดับโลก
Most Innovative Department Store in the World
รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ทีมบริหารห้างสรรพสินค้าที่ดีที่สุดในโลก
World's Best Team at a Department Store

ห้างสรรพสินค้าคาเดเว ปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารของ กลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทย ในฐานะที่ธุรกิจจากประเทศไทย ได้เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าหรูระดับโลก ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีความผูกพันกับประเทศไทยมาโดยตลอด