เปิดบริการวันแรกคึกคัก

เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ เอาท์เล็ตแห่งแรกของไทย

  • พร้อมอำนวยอำนวยความสะดวกเต็มที่ด้วยสาธารณูปโภค และที่จอดรถกว่า 1,500 คัน
  • ลักชูรี่ เอาท์เล็ต รวมร้านค้าแบรนด์เนมที่นำเสนอสินค้าคอลเลคชั่นก่อนๆ มาลดราคา 35-70% ให้ช้อปทุกวัน ไม่ต้องรอเทศกาลเซล

กรุงเทพฯ - บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดให้บริการวันแรก เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่เอาท์เล็ตแห่งแรกของประเทศไทย ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่สนับสนุนโครงการที่ซีพีเอ็นตั้งใจและปรารถนาที่จะทำให้ดีที่สุดด้วยมาตรฐานและความเป็นมืออาชีพ โดยจะอำนวยความสะดวกให้กับทุกคนอย่างสุดความสามารถ และอยากให้ทุกคนมาช้อปเอาท์เล็ตที่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ชูร้านค้าแบรนด์ดังนำสินค้าคอลเลคชั่นก่อนๆ ลดราคา 35-70% ทุกวัน เปิดให้บริการทุกวัน 10.00-22.00 น.

นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ซีพีเอ็นขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้กำลังใจและช่วยสนับสนุนโครงการ โดยบริษัทฯ และพันธมิตรร้านค้าแบรนด์ต่างๆ ระดับโลกกว่า 150 ร้านค้า ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการปลุกปั้นโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ เอาท์เล็ตระดับโลกแห่งแรกของไทย ด้วยฝีมือคนไทย และแสดงให้เห็นว่ากรุงเทพมหานคร และประเทศไทยพร้อมแล้วที่จะขึ้นแท่นเป็นมหานครท่องเที่ยวของโลก และสวรรค์แห่งการช้อปปิ้งทุกรูปแบบที่สมบูรณ์แบบแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเต็มตัว”

ลูกค้าสามารถเดินทางมาได้สะดวกด้วยเส้นทางต่างๆ ดังนี้ :

  1. บริการฟรีรถรับส่ง (Free Shuttle Bus) จากเซ็นทรัลเวิลด์ ออกวันละ 3 รอบ คือ 11.00, 15.00 และ 19.00 น. และจากป้ายรถประจำทาง สถานีบีทีเอสอุดมสุข หมุนเวียน วันละ 5 รอบ คือ 10.00, 12.30,15.00, 18.00 และ 20.30 และช่วงแรกของการเปิดศูนย์ฯ (31 ส.ค.-8 ก.ย. 62) เพิ่มรถจากเซ็นทรัลพลาซา บางนา (ประตู KFC) มีรถออกทุกชั่วโมงตั้งแต่ 10.00-20.00 น.
  2. ขนส่งสาธารณะ (รถไฟฟ้าบีทีเอส-แอร์พอร์ต เรล ลิงก์-รถประจำทาง) เดินทางได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีอุดมสุข ใช้ทางออก 1,3 หรือ 5 แล้วต่อ Shuttle Bus มายังโครงการ หรือ เดินทางด้วย แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ลงที่สถานีสุวรรณภูมิ แล้วเรียก Taxi หรือ หากเดินทางด้วยรถประจำทาง สาย 558 (สนามบินสุวรรณภูมิ-เซ็นทรัล พระราม 2) ลงป้าย วิทยาลัยเกริกแล้วเดินต่อ 450 เมตร
  3. รถยนต์ส่วนตัว เดินทางมุ่งหน้ายังสนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 โดยมีที่จอดรถที่โครงการ 1,500 คัน และวันที่ 31 ส.ค.-8 ก.ย. 62 จอดรถฟรีที่เซ็นทรัลพลาซา บางนา 600 คัน
  4. บริการ GRAB ด้วยโปรโมชั่นพิเศษ ตั้งแต่ 31 ส.ค. ถึง 30 ก.ย. 2562 ใช้ GrabCar Premium and SUV เดินทางไป-กลับ เซ็นทรัลเวิลด์ หรือ เซ็นทรัล วิลเลจ ราคาเดียว 450 บาท ต่อเที่ยว เมื่อใส่โค้ด “SVB450” หรือใช้ GrabCar Luxe เดินทางไป-กลับ เซ็นทรัลเวิลด์ หรือ เซ็นทรัลวิลเลจ ลดทันที 300 บาท ต่อเที่ยว เมื่อใส่โค้ด “SVB300” *ส่วนลดต่อวันมีจำนวนจำกัด

ภายใต้คอนเซปต์ “Bangkok Luxury Outlet” ที่รวบรวมร้านค้า พร้อมสินค้าแบรนด์เนมในราคาย่อมเยาที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ ด้วยส่วนลดราคาพิเศษ 35-70% ทุกวัน โดยมีแบรนด์ดังระดับโลกกว่า 150 ร้านค้า ซึ่งส่วนใหญ่ถือเป็น First Time Outlet Shop ในประเทศไทย และอีกกว่า 60 แบรนด์ ได้เลือกเปิด Exclusive Outlet Store เฉพาะเซ็นทรัล วิลเลจที่เดียว นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์ไฮไลท์ต่างๆ อาทิ Club 21 (Outlet by Club 21), Calvin Klein, Carnival, Ducati, Etro, Kloset Etcetera, Victoria’s Secret, Ermenegildo Zegna, Lacoste, Max & Co., Michael Kors, Kenneth Cole, Keds, L’Oreal Luxe, Adidas, Under Armour, Puma, Skechers, Superdry, Samsonite, Toys R Us, Home & Living เป็นต้น โดยจะมีแบรนด์ดังๆ อาทิ Chloé, Salvatore Ferragamo, COACH, Polo Ralph Lauren, Tommy Hilfiger และ Kate Spade ทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์ไทยที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ อย่าง Jim Thompson, Naraya และโซนไทย พาวิลเลี่ยน และวิลเลจ สแควร์ ที่รวบรวมสุดยอดผลิตภัณฑ์เอกลักษณ์ไทยพื้นบ้านร่วมสมัย ที่สลับสับเปลี่ยนให้เลือก ช้อปเลือกชมกันตลอดทั้งปี นับเป็นการยกระดับคุณภาพสินค้าไทยให้เป็นที่ประจักษ์ในระดับโลก ในบรรยากาศช้อปปิ้งแบบไทยโมเดิร์น (Thai Modern) ที่ตกแต่งด้วยเส้นลายหลังคาทรงจั่วของไทย แบ่งโซนเป็นหมู่บ้านต่างๆ ผสานพื้นที่สีเขียว สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งใน World-Class Shopping Destination

นางสาววัลยา กล่าวว่า “สำหรับการเปิดบริการในวันแรก เรามีความพร้อมเต็มที่ในการอำนวยความสะดวกทั้งด้านสาธารณูปโภค และที่จอดรถกว่า 1,500 คันพร้อมที่จอดรถสำรอง โดยในวันแรกมีร้านค้าที่พร้อมเปิดให้บริการแล้วกว่า 75% จากกว่า 150 ร้านค้า โดยคาดว่าจะมีจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการในวันแรกวันนี้ประมาณ 20,000 คน และทราฟฟิกปกติประมาณ 17,000 คนต่อวัน โดยลูกค้าให้ความสนใจมาช้อปปิ้งและร่วมเป็นสักขีพยานเป็นจำนวนมาก และมีความชื่นชอบในคอนเซ็ปต์ของโครงการที่เชิดชูอัตลักษณ์ของความเป็นไทยที่มีเพียงแห่งเดียวในโลก"

“เมื่อประเทศไทยมี Luxury Outlet เกิดขึ้น จะทำให้ประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขันกับประเทศชั้นนำทั่วโลกได้ และมีแม่เหล็กในการดึงดูดและเพิ่มความถี่ให้ Frequent Visitors (Weekend travelers) บินมาช้อปที่ไทยบ่อยขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม SEA และ Chinese ที่บินมาไทยได้ด้วยทริปบินสั้นๆ เพียง 1-2 ชม. โดยคาดว่าจะเพิ่ม visit ได้จากปีละครั้ง เป็นปีละ 2-4 ครั้งต่อปี สำหรับตลาดคนไทย เซ็นทรัล วิลเลจ จะเปลี่ยน Shopping Journey ของคนไทยจาก ‘อยากได้ต้องรอเทศกาลเซล’ เป็น ‘อยากได้ ต้องได้’ เพราะการมาช้อปที่นี่ ซึ่งราคาเทียบเท่าเมืองนอก ทำให้คนไทยไม่ต้องรอไปช้อปเอาท์เล็ตเมืองนอกอีกต่อไป คาดว่าจะช่วยสร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศได้กว่า 20,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1 ใน 4 หรือ 25% ของยอดช้อปคนไทยที่สูญเสียเม็ดเงินไปช้อปต่างประเทศกว่า 80,000 ล้านบาทต่อปี” นางสาววัลยากล่าว

เซ็นทรัล วิลเลจ ยังแตกต่างจากเอาท์เล็ตอื่นๆ ในโลก ด้วย Beyond Experience ที่มากกว่า ด้วยความเชี่ยวชาญของซีพีเอ็น เพราะนอกจากจะมีดีไซน์ในสไตล์หมู่บ้านไทยแบบ Thai Modern ที่มีเพียงแห่งเดียวในโลกแล้ว ยังมีมนต์เสน่ห์แสดงวิถีชีวิตของความเป็นไทยในสไตล์ Outdoor Experience ผ่านความร่มรื่นของต้นไม้ พื้นที่สีเขียว น้ำพุ ฟีเจอร์โมเดิร์นอาร์ตและจุดถ่ายรูปต่างๆ รวมถึงมีการจัดกิจกรรมแฟชั่น ศิลปะ และวัฒนธรรมร่วมสมัย หมุนเวียนตลอดทั้งปี เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินใน Travel Checklist ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกและเป็นโปรเจ็คที่มัดใจลูกค้าชาวไทยที่ชื่นชอบสินค้าแบรนด์เนมในราคาย่อมเยาได้อย่างแน่นอน

เซ็นทรัล วิลเลจ ยังมุ่งมั่นที่จะเป็น “ศูนย์กลางการใช้ชีวิตแห่งใหม่” ที่รองรับคนกรุงเทพฯ ในย่านสุขุมวิทตอนปลาย บางนา ลาดกระบัง รวมถึงสมุทรปราการ ด้วยร้านอาหารยอดนิยม เช่น Fuji, แหลมเจิรญ, Café Amazon, MK Restaurant, Starbucks, ชาตรามือ, Swensen’s, ลาวญวน, Sushi Hiro, Bonchon และ Krispy Kreme รวมถึงที่จอดรถจำนวนมากและห้องน้ำที่มีมาตรฐาน เราจึงมั่นใจว่าจะสามารถมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับคนไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ติดตามรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.centralvillagebangkok.com


แกลลอรี่