บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ร่วมกับ โครงการเซ็นทรัล ทำ โครงการด้านความยั่งยืนของกลุ่มเซ็นทรัล เดินหน้าผลักดันและพัฒนาคุณภาพสินค้าพร้อมสร้างรายได้คืนสู่ชุมชนอย่างต่อเนื่อง จัดงาน “จริงใจ มาหา…นคร” มหกรรมสินค้าจากชุมชนเกษตรกรทั่วไทย ยกขบวนสินค้าผลผลิตทางการเกษตร 4 ภาค ทั้งผักผลไม้ปลอดสารพิษ ผลผลิตแปรรูป, งานหัตถกรรม, สินค้า GI และของดีประจำท้องถิ่นมากกว่า 1,000 รายการส่งตรงจากเกษตรกรไทยจาก 33 จังหวัดทั่วประเทศ รวม 50 บูธ มากกว่า 60 ชุมชน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-25 มิถุนายน 2566 ณ โซน Eden 1, 2 และ 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยงานดังกล่าวเป็นการต่อยอดความสำเร็จด้านการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเพื่อช่วยให้เกษตรกรไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีรายได้ที่ยั่งยืน
โดยพิธีเปิดงานได้รับเกียรติจาก คุณกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย คุณพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล, คุณญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น, คุณบุษบา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายสื่อสารองค์กรกลุ่มเซ็นทรัล, คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ แห่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), คุณสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล และ ผู้บริหารจากไทวัสดุ ร่วมพิธีเปิดงาน พร้อมนำชมไฮไลท์ของโซนต่างๆ ทั้ง 3 โซน ได้แก่ ตลาดจริงใจ อีเดน 1, พบกับ 8 โครงการไฮไลต์ ของ Central Tham และบูธสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย หรือ TOCA by TAT บริเวณอีเดน 1-2 และชม Central Tham Exhibition ที่อีเดน 3
พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า สำหรับงาน “จริงใจ มาหา…นคร” เป็นการสะท้อนความสำเร็จของโครงการ จริงใจ Farmers’ Market ทั้ง 33 จังหวัด ซึ่งเป็นตลาดค้าปลีกรูปแบบใหม่ที่เปิดโอกาสให้เกษตรกรมาจำหน่ายสินค้าได้โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง โดยมุ่งไปที่ผักผลไม้ปลอดภัย ปลอดสารพิษ และเกษตรอินทรีย์ รวมถึงอาหารพร้อมรับประทาน โดยคอนเซ็ปต์การดำเนินงานจริงใจ มาหา…นคร ปีนี้ได้คำนึงถึงการปรับเปลี่ยนการใช้วัสดุอุปกรณ์ในการจัดงาน (Carbon Neutral) ที่ไม่ส่งผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การ Reuse วัสดุภายในงาน จนถึงเมื่อใช้งานแล้วจะนำกลับมาใช้ซ้ำหรือนำไป Recycle อย่างถูกวิธี รวมไปถึงการคำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตั้งแต่การใช้ไฟฟ้า การเดินทางของผู้มาร่วมงาน อาหารและเครื่องดื่ม ตลอดจนขยะที่เกิดขึ้นภายในงาน และจะทำการชดเชยปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เท่ากับศูนย์ เพื่อเป็นต้นแบบของการจัดกิจกรรมที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ทางด้าน ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า “จากความตั้งใจของเซ็นทรัล รีเทล ที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากด้วยการสร้างรายได้ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างชุมชน และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ด้วยแนวคิด Creating Shared Value (CSV) เพื่อสร้างคุณค่าและการเติบโตร่วมกันทั้งธุรกิจและสังคม (Inclusive growth) นำมาสู่จุดเริ่มต้นในการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีอาชีพ รายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน โดยเราได้ใช้ศักยภาพ ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และองค์ความรู้ต่างๆ ในการทำงานร่วมกันกับเกษตรกรอย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง เพื่อเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายและเพิ่มมูลค่าสินค้าทางการเกษตร จนสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนให้เป็นรูปธรรม และต่อยอดมาเป็นโครงการ ตลาดจริงใจ Farmers’ Market ที่ชูจุดเด่นเรื่องการคัดสรรผักผลไม้ปลอดภัย ปลอดสารพิษ มาวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือของเซ็นทรัล รีเทล ได้เป็นผลสำเร็จ ทำให้เกษตรกรสามารถขายสินค้าได้โดยตรงกับผู้บริโภค และสามารถสร้างรายได้กลับคืนสู่ชุมชนและเกษตรกรไปแล้วกว่า 1,094 ล้านบาท ทั้งยังเป็นตลาดต้นแบบที่ปลอดถุงพลาสติก 100% โดยได้เริ่มสาขาแรกที่ท็อปส์ มาร์เก็ต เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี เมื่อปี พ.ศ. 2561 จนประสบความสำเร็จ และกลายเป็นโมเดลต้นแบบในหลายพื้นที่ทั่วไทย โดยในปี 2565 มีตลาดจริงใจ Farmers’ Market ทั้งหมด 33 สาขาใน 28 จังหวัด รวม 9,696 ครัวเรือน สร้างยอดขายถึง 250 ล้านบาท พร้อมทั้งคาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2566 ตลาดจริงใจ Farmers’ Market จะมีทั้งสิ้น 39 สาขา ใน 34 จังหวัดทั่วไทย และครอบคลุม 10,360 ครัวเรือน”
ภายในงาน จริงใจ มาหา…นคร ชวนคุณช้อปไปกับของดีประจำท้องถิ่นจากทุกภาคทั่วไทยที่โซน
“ตลาดจริงใจ” รวมไว้ที่อีเดน 1 ไปกับอาหารพร้อมรับประทานจากร้านชื่อดัง และร้าน “OTOP 5 ดาว” อย่าง
เฮียจอกกาละแม ศีขรภูมิ, ถั่วทองมะพร้าวน้ำหอม, ทุเรียนทองผาภูมิ, ยำเห็ดแครง Organics ของดังเมืองสุราษฏร์ธานี, ขนมโค และยังมีงานคราฟท์ (Craft) เช่น ชามตราไก่ (GI), งานหัตถกรรมกระจูด, ตะกร้าเชือกกล้วย, กระเป๋าสานเสื่อกก,สมูธตี้อะโวคาโด, ชุดข้าวมันส้มตำอะโวคาโด, บราวนี่อะโวคาโด จากสวนเทพพนา จ.ชัยภูมิ และขนมบ้าบิ่นแม่รำไพ จ.อุดรธานี, ส้มโอทับทิมสยาม จ.นครศรีธรรมราช และทุเรียนหลงลับแล สับปะรดห้วยมุ่น จาก จ.อุตรดิตถ์ ให้คนกรุงเทพได้จับจ่ายใช้สอย และได้พบปะพูดคุยกับเกษตรกรตัวจริง นอกจากนี้ หากชื่นชอบในผลิตภัณฑ์ของเกษตรกรก็สามารถไปเลือกซื้อเลือกหาได้เมื่อมีโอกาสไปเยือนในจังหวัดนั้นๆ ได้อีกด้วย
พบกับ 8 โครงการไฮไลต์ ของ Central Tham และบูธสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย หรือ TOCA by TAT บริเวณอีเดน 1-2 ได้แก่
1) ศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน สหกรณ์การเกษตรยั่งยืน แม่ทา จ.เชียงใหม่ 2) ศูนย์เรียนรู้พัฒนาผลผลิตการเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน วิสาหกิจชุมชนปลูกพืชเศรษฐกิจ
บ้านเทพพนา จ.ชัยภูมิ 3) ศูนย์การเรียนรู้พัฒนาด้านหัตถศิลป์และวัฒนธรรมพื้นถิ่น วิสาหกิจชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี จ.ตรัง 4) ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์พัฒนาผลิตภัณฑ์ และการจัดการสิ่งแวดล้อม วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรอินทรีย์ตำบลบัวใหญ่ จ.น่าน 5) ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีย์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน สหกรณ์การเกษตรพืชผักอินทรีย์หนองสนิท จ.สุรินทร์ 6) ศูนย์เรียนรู้สวนป่าประดู่ เกษตรยั่งยืน และสมุนไพรพื้นถิ่นภาคใต้ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านรถจิ๊ป จ.สุราษฎร์ธานี 7) ศูนย์แปรรูปอาหารและผลิตภัณฑ์ชุมชน วิสาหกิจชุมชนถนอมอาหารจากปลาบ้านตราชู จ.สิงห์บุรี 8) โครงการท่องเที่ยววิถีเกษตรสไมล์เมล่อน วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเมล่อนหมู่ใหญ่ร่วมใจพัฒนา จ.อยุธยา 9) บูธสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย หรือ TOCA by TAT
นอกจากนี้ในโซนอีเดน 3 ยังมี Central Tham Exhibition ที่บอกเล่าความเป็นมาโครงการ เซ็นทรัล ทำ ของกลุ่มเซ็นทรัล มุ่งเน้นในการลดความเหลื่อมลํ้า ให้โอกาสทุกคนในสังคม พัฒนาด้านการศึกษาสู่การเป็น ศูนย์การเรียนรู้ ส่งเสริมอาชีพคนพิการ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้มั่นคง แบ่งปันความรู้ทักษะต่าง ๆ สนับสนุนช่องทางการขายและสื่อสารทางการตลาด พร้อมการรักษาและดูแลสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่โลกสีเขียว ขับเคลื่อนทุกภาคส่วนสู่การท่องเที่ยวยั่งยืนด้วย ‘พลังของการลงมือทำ’ ได้อย่างแท้จริง พร้อมลิ้มรสกาแฟภูชี้เดือน จ.เชียงราย จากร้าน Good Goods อีกด้วย